โค้ชอ๊อด: ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวอลเลย์บอลหญิงไทย

Browse By

ufabet999 ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มเดิมพันกีฬายอดนิยมในไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักที่ให้ความสำคัญกับวงการกีฬาไทยในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล บาสเกตบอล หรือแม้แต่กีฬาวอลเลย์บอลหญิง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จของทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ล้วนมีชื่อของ “โค้ชอ๊อด” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร รวมอยู่ในทุกบทสำคัญของประวัติศาสตร์


จุดเริ่มต้นของ “โค้ชอ๊อด”

โค้ชอ๊อดมีชื่อเต็มว่า เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร เกิดเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2509 ในจังหวัดชัยภูมิ เขาเติบโตมาในครอบครัวที่มีความรักในกีฬา และเริ่มต้นชีวิตการเป็นนักกีฬาตั้งแต่เยาว์วัย โดยในช่วงมัธยมและอุดมศึกษา เขาเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลชายทีมมหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งมีระบบฝึกที่เข้มข้น

หลังจากเรียนจบ เขาไม่ได้เลือกเส้นทางนักกีฬามืออาชีพ แต่หันมาเอาดีด้านการเป็นผู้ฝึกสอน โดยเริ่มจากการเป็นโค้ชระดับโรงเรียน ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเป็นโค้ชทีมมหาวิทยาลัย ทีมเยาวชน และในที่สุดก็กลายเป็นหัวหน้าโค้ชทีมชาติไทยชุดใหญ่


การเข้าสู่ตำแหน่งโค้ชทีมชาติไทย

ในปี พ.ศ. 2544 สมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยได้ตัดสินใจแต่งตั้งโค้ชอ๊อดเป็นหัวหน้าโค้ชทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยชุดใหญ่ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวงการ เพราะโค้ชอ๊อดถือเป็นโค้ชที่มีแนวทางทันสมัย เข้าใจจิตวิทยาการกีฬา และมีความสามารถในการวางระบบระยะยาว

หนึ่งในแนวคิดที่เขานำมาใช้คือ “การเล่นเป็นทีมด้วยระบบการประสานงานที่ราบรื่น” มากกว่าการพึ่งพาดาวเด่นเพียงไม่กี่คน นอกจากนี้เขายังเน้นความสามารถรอบด้านของผู้เล่น เช่น การบล็อกที่แม่นยำ การเคลื่อนที่ไว และการรับลูกเสิร์ฟที่มีประสิทธิภาพ


การสร้างทีม 7 เซียน และปรัชญาการฝึกซ้อม

ช่วงปี พ.ศ. 2546–2552 ถือเป็นยุคสร้างทีมของโค้ชอ๊อด เขานำเยาวชนฝีมือดีจากทั่วประเทศมารวมทีมและวางรากฐานอย่างเข้มข้น โดยมีนักกีฬาที่ต่อมาได้กลายเป็น “ตำนาน 7 เซียน” ได้แก่:

  • ปลื้มจิตร์ ถินขาว
  • วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์
  • อรอุมา สิทธิรักษ์
  • มลิกา กันทอง
  • นุศรา ต้อมคำ
  • ปิยะนุช แป้นน้อย
  • พรพรรณ เกิดปราชญ์

โค้ชอ๊อดเน้นการฝึกแบบเข้มข้นทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เช่น การฝึกสมาธิก่อนการแข่งขัน การวิเคราะห์วิดีโอคู่แข่ง และการสื่อสารในทีมให้มีความเข้าใจตรงกันทุกตำแหน่ง จุดแข็งที่เขาพัฒนาได้ดีที่สุดคือ “ทีมเวิร์ก” ที่ทำให้ทีมไทยสามารถต่อกรกับมหาอำนาจของโลกอย่างจีน ญี่ปุ่น บราซิล และสหรัฐฯ ได้อย่างไม่เป็นรอง


ความสำเร็จภายใต้การคุมทีมของโค้ชอ๊อด

1. แชมป์เอเชีย 2009 – ประวัติศาสตร์ครั้งแรก

ในปี พ.ศ. 2552 ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยคว้าแชมป์วอลเลย์บอลหญิงชิงชนะเลิศแห่งเอเชียเป็นครั้งแรก ด้วยการเอาชนะจีน ซึ่งเป็นอดีตแชมป์โลก ความสำเร็จครั้งนี้ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นจุดเปลี่ยนของวงการวอลเลย์บอลไทย

2. ความสำเร็จในระดับนานาชาติ

  • เข้าร่วมแข่งขัน World Grand Prix และทำผลงานติด Top 8 หลายสมัย
  • คว้าเหรียญทองในซีเกมส์ติดต่อกันนับสิบปี
  • ติดอันดับ Top 10 โลกในบางช่วง
  • ได้รับเชิญให้เข้าร่วมรายการ Volleyball Nations League (VNL)

รางวัลและเกียรติยศ

โค้ชอ๊อดได้รับรางวัลมากมายทั้งในและต่างประเทศ เช่น

  • รางวัลโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปี จากสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย
  • รางวัลเชิดชูเกียรติจาก FIVB ในฐานะผู้พัฒนาวอลเลย์บอลในภูมิภาคเอเชีย
  • ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

แนวคิดการพัฒนาวอลเลย์บอลอย่างยั่งยืน

แม้ในปี พ.ศ. 2560 โค้ชอ๊อดจะวางมือจากการเป็นหัวหน้าโค้ช แต่เขายังคงทำหน้าที่ในบทบาทที่ปรึกษาและผู้บริหารทางการกีฬา โดยเน้นการพัฒนาระบบเยาวชน การสร้างโค้ชรุ่นใหม่ และการให้ความรู้ด้านจิตวิทยาการกีฬากับสาธารณชนผ่านสื่อและกิจกรรมต่าง ๆ

เขาเชื่อว่าการพัฒนากีฬาต้องไม่ใช่แค่ “ฝึกให้เก่ง” แต่ต้อง “สร้างให้รักในสิ่งที่ทำ” ด้วยความเข้าใจในศักยภาพของมนุษย์แต่ละคน และนี่คือปรัชญาที่เขานำมาใช้ตลอดชีวิตการทำงาน


ความสัมพันธ์กับแฟนกีฬาและสื่อ

โค้ชอ๊อดเป็นหนึ่งในบุคคลในวงการกีฬาที่มีภาพลักษณ์ดีต่อสาธารณะ เขามีความสามารถในการพูดจูงใจ เป็นผู้นำที่มีจิตวิทยาในการบริหารทีม และเข้าใจความต้องการของแฟนคลับเป็นอย่างดี

หลายครั้งที่เขาร่วมกิจกรรมกับแฟนวอลเลย์บอลทั่วประเทศ ทั้งในรูปแบบค่ายอบรมสัมมนา การเสวนา หรือกิจกรรมการกุศล เพื่อคืนกำไรให้สังคมและปลูกฝังความรักในกีฬาให้กับคนรุ่นใหม่


การมีส่วนร่วมของแพลตฟอร์มกีฬากับความสำเร็จของทีมชาติไทย

การเติบโตของวงการวอลเลย์บอลในยุคดิจิทัล ทำให้เกิดการเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มกีฬาออนไลน์มากขึ้น ทั้งในด้านข้อมูล การถ่ายทอดสด และกิจกรรมร่วมสนุก โดยเฉพาะผู้ให้บริการอย่าง ufabet999 เว็บตรง ไม่ผ่านเอเย่นต์ บริการครบวงจร ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมกีฬาไทย

ไม่เพียงแค่เป็นเว็บไซต์เดิมพันกีฬา ยูฟ่าเบท ระบบออโต้ ฝากถอนไว บริการตลอด 24 ชั่วโมง ยังให้ข้อมูลสถิติการแข่งขัน ตารางโปรแกรม และวิเคราะห์ผลการแข่งขันแบบละเอียด ซึ่งช่วยให้แฟนกีฬาติดตามได้ง่ายขึ้น พร้อมเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมผ่านระบบเกมที่ทันสมัย


มรดกทางความคิดของโค้ชอ๊อด

โค้ชอ๊อดไม่ได้สร้างแค่นักกีฬาฝีมือดี แต่ยังสร้าง “คน” ที่มีคุณภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ นักกีฬาหลายคนที่ผ่านการฝึกสอนจากเขา ไม่ว่าจะไปเป็นโค้ช นักพากย์กีฬา หรือผู้จัดการทีม ล้วนได้รับอิทธิพลจากแนวคิดของเขาในเรื่องความมีระเบียบวินัย ความเสียสละ และการมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้

การยอมรับในระดับนานาชาติของโค้ชอ๊อด

แม้โค้ชอ๊อดจะสร้างชื่อเสียงในประเทศไทยอย่างล้นหลาม แต่สิ่งที่น่าภูมิใจยิ่งกว่าคือการได้รับการยอมรับจากวงการวอลเลย์บอลโลก เขาเคยได้รับเชิญไปเข้าร่วมการอบรมโค้ชชั้นสูงจาก FIVB (สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ) รวมถึงได้รับคำเชิญจากหลายชาติในเอเชียและยุโรปให้ไปเป็นวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับกลยุทธ์และการจัดการทีมระดับทีมชาติ

หนึ่งในผลงานที่ได้รับเสียงชื่นชมคือการพัฒนาระบบ “Back Court Defense” หรือระบบการตั้งรับในแดนหลัง ที่นำจุดแข็งของนักกีฬาชาวไทย ซึ่งมีความเร็วและความคล่องตัว มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เขายังเป็นผู้ริเริ่มการใช้ “ระบบรับเสิร์ฟ 3 จุด” ที่ช่วยลดโอกาสเสียแต้มจากลูกเสิร์ฟแรง ๆ จากคู่แข่ง ซึ่งถูกนำไปปรับใช้ในลีกญี่ปุ่นและเวียดนามภายหลัง

การเป็นผู้นำเชิงจิตวิทยา

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของโค้ชอ๊อดที่แตกต่างจากโค้ชทั่วไปคือ การเข้าใจใน “จิตวิทยานักกีฬา” โดยเฉพาะกับทีมหญิง ซึ่งต้องการการสื่อสารที่อ่อนโยน และการให้เกียรติในทุกมิติของการเป็นมนุษย์ เขาไม่เคยใช้การตะโกน ดุด่า หรือคำพูดดูแคลนในการกระตุ้นลูกทีม แต่ใช้วิธี “สร้างแรงจูงใจจากภายใน” ให้พวกเขาเห็นเป้าหมายร่วมกัน และร่วมแรงร่วมใจกันเดินไปถึงเป้าหมายนั้น

นักกีฬาอย่าง นุศรา ต้อมคำ เคยกล่าวไว้ว่า:

“โค้ชอ๊อดไม่ใช่แค่โค้ช แต่เหมือนพ่อคนที่สอง เขาทำให้เรารู้ว่ากีฬาไม่ใช่แค่เรื่องชนะหรือแพ้ แต่เป็นเรื่องของการเรียนรู้ความหมายของชีวิตด้วย”

โค้ชอ๊อดยังใช้การฝึกสมาธิ การนั่งสมาธิร่วมกันก่อนแข่งขัน และการเขียนเป้าหมายลงในกระดาษก่อนเข้ารอบ เพื่อกระตุ้นจิตใต้สำนึกและรวมจุดโฟกัสของทีมไว้ที่เป้าหมายเดียวกัน


ผลกระทบที่ยาวไกลต่อวงการวอลเลย์บอลไทย

แม้ว่าโค้ชอ๊อดจะไม่ได้เป็นผู้คุมทีมชาติในปัจจุบัน แต่แนวคิดและระบบที่เขาวางไว้ยังคงเป็นรากฐานให้กับทีมปัจจุบัน โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาเยาวชน ที่มีโค้ชหลายคนซึ่งเคยเป็นลูกศิษย์ของเขา กลายมาเป็นหัวหน้าโค้ชของทีมเยาวชน U18, U20 และทีมสโมสรไทยแลนด์ลีก

การสร้างเครือข่าย “โรงเรียนพันธมิตร” ที่ฝึกวอลเลย์บอลตามแนวทางโค้ชอ๊อด เช่น โรงเรียนกีฬานครราชสีมา โรงเรียนบดินทรเดชา และมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำให้ระบบการพัฒนานักกีฬาวอลเลย์บอลไทยไม่หยุดอยู่กับที่


พลังเบื้องหลังการสนับสนุนโค้ชไทย

ในยุคปัจจุบัน การผลักดันโค้ชไทยให้เข้าสู่เวทีระดับโลก ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสมาคมกีฬาเพียงฝ่ายเดียว แต่ยังมีภาคเอกชนจำนวนมากที่เข้ามาร่วมสนับสนุน หนึ่งในนั้นคือ ufabet เว็บพนันอันดับ 1 สมัครง่าย เล่นได้ทุกเกม ที่นอกจากจะเป็นผู้ให้บริการเกมกีฬาและเดิมพันที่ทันสมัย ยังเป็นผู้ให้การสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมกีฬาในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ

ด้วยการสนับสนุนจากผู้ให้บริการที่มีความเข้าใจในกลไกของวงการกีฬาไทยเช่นนี้ ทำให้โค้ชและผู้ฝึกสอนระดับเยาวชนหลายคนมีโอกาสในการเข้าร่วมอบรม หรือพัฒนาตนเองต่อเนื่องโดยไม่มีภาระด้านทุนทรัพย์มากนัก


วิสัยทัศน์ในอนาคตของโค้ชอ๊อด

แม้วันนี้โค้ชอ๊อดจะเน้นงานในเชิงบริหารและวิชาการมากขึ้น แต่เขายังมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนสำหรับวอลเลย์บอลไทยในอนาคต นั่นคือการสร้าง “ระบบโค้ชชิ่งแห่งชาติ” ที่มีมาตรฐานระดับสากล โดยตั้งเป้าให้มีการรับรองโค้ชทุกคนผ่านระบบเทรนนิ่งอย่างเป็นขั้นตอน พร้อมมีการประเมินผลงาน และสร้างเครือข่ายโค้ชทั่วประเทศ

เขายังเชื่อมั่นว่า “โค้ชไทยสามารถก้าวไปคุมทีมต่างประเทศได้” หากได้รับโอกาสและการยอมรับ ซึ่งจะเป็นการเปิดตลาดงานใหม่ให้กับโค้ชไทยในอนาคต เหมือนเช่นที่นักกีฬาหลายคนสามารถไปเล่นในลีกต่างประเทศได้อย่างมืออาชีพ


สรุป: ตำนานที่ยังมีลมหายใจ

โค้ชอ๊อดไม่ได้เป็นเพียง “อดีตโค้ชทีมชาติ” แต่คือบุคคลที่ปลุกวอลเลย์บอลหญิงไทยให้กลายเป็นที่รู้จักในระดับโลก ชื่อของเขายังคงถูกกล่าวถึงอยู่เสมอในวงการกีฬา และแนวทางการทำงานของเขาก็ยังถูกนำไปต่อยอดโดยทีมงานรุ่นใหม่

สำหรับแฟนกีฬาที่ติดตามทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยมายาวนาน การเข้าใจประวัติของโค้ชอ๊อดก็เท่ากับเข้าใจจุดกำเนิดของยุคทองในกีฬาชนิดนี้ ซึ่งยังคงส่งอิทธิพลไปถึงนักกีฬาและเยาวชนไทยจนถึงทุกวันนี้